เพอร์ไลท์กับเวอร์มิคูไลท์ จัดไปเซตคู่เพียง59บาทคุ้มๆไปเลย
🎥🎥ถ่ายVDO กล่องแกะกล่องพัสดุ หากไม่มีVDOทางร้านจะไม่รับผิดชอบ
จัดชุดคุ้มๆไปเลยจ้า
เพอร์ไลท์2ลิตร+
เวอร์มิคูไลท์2ลิตร+
ใช้ผสมดินทำให้ดินโปร่งรากเดินดีต้นไม้โตไว
การใช้เพอร์ไลต์ในการปลูกพืช
1. ใช้ดินผสมกับเพอร์ไลต์หรือพีตมอสในสัดส่วนที่เท่ากัน จะทำให้ดินโปร่ง ระบายน้ำได้ดีและมีอากาศถ่ายเทในดิน
2. เพอร์ไลต์สามารถใช้ในการโรยหน้าดินได้ ช่วยในการระบายของน้ำ
3. หากต้องการปักชำพืชหรือให้พืชรากเดิน โดยปกติแล้วเราสามารถแช่น้ำได้ แต่หากใช้เพอร์ไลต์ในการปักชำและใส่ไว้ในถุงโปร่งจะยิ่งทำให้รากมีการเจริญเติบโตไวยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของเพอร์ไลต์ในการเป็นวัสดุปลูก
เพอร์ไลต์ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ปลูกพืชและปลูกพืชแบบไฮโดรโพนิกส์ สาเหตุที่เพอร์ไลต์มีคุณสมบัติในการเหมาะที่จะเป็นวัสดุปลูก มีดังนี้
1. เพอร์ไลต์มีรูปร่างที่แน่นอนและคงสภาพอยู่ได้ ไม่เสื่อมสภาพง่ายเมื่อใช้เป็นวัสดุปลูก
2. มีค่าความเป็นกรด-เบส (pH) ที่เป็นกลาง
3. ไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษต่อพืชและเป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
4. มีคุณสมบัติที่เป็นรูพรุน ทำให้มีอากาศสามารถเข้าไปได้และรากสามารถหายใจได้
5. มีคุณสมบัติที่สามารถดูดซับน้ำได้
คุณสมบัติข้างต้นนี้ทำให้เพอร์ไลต์หมาะสมแก่การใช้เป็นวัสดุปลูกในการปลูกพืช ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้พืชเจริญเติบโต คือ อากาศและการระบายน้ำ ซึ่งเพอร์ไลต์มีคุณสมบัติสำคัญที่เหมาะแก่การทำให้พืชเจริญเติบโต
1. เพอร์ไลต์มีคุณสมบัติที่โปร่ง ทำให้มีอากาศในวัสดุปลูกสูง พืชจำเป็นต้องรับออกซิเจนไม่ใช่เฉพาะทางใบแต่ทางรากก็เช่นกัน เมื่อวัสดุปลูกมีรูพรุนมากเท่าใด รากของพืชจะยิ่งดูดซึมได้ดี และการมีอากาศในวัสดุปลูก เป็นผลให้ระบบรากมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
2. น้ำที่มากเกินไปอาจทำให้รากของพืชเน่าได้ การระบายน้ำที่ดีจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อากาศสามารถเข้าไปในดินได้ ดังนั้น การใส่เพอร์ไลต์เข้าไปกับดินทำให้ดินมีช่องว่างนอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติที่ระบายน้ำได้ดี ไม่ทำให้น้ำขังในดิน
เวอร์มิคูไลต์ (Vermiculite)
เป็นแร่ในกลุ่มไมก้า ซึ่งคุณสมบัติเด่นของแร่กลุ่มไมก้าคือ การมีโครงสร้างมีผลึกซ้อนกันเป็นชั้น และมีน้ำคั่นระหว่างชั้น ดังนั้นเมื่อเผาประมาณ 1000-1100 องศาเซลเซียส ก็จะแตก และพองตัวออกเป็นเหมือนตัวหนอนขนาดเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไมก้าทุกตัวจะสามารถแตกและขยายตัวเป็นตัวหนอนได้เหมือนเวอร์มิคูไลต์
คุณสมบัติสำคัญของเวอร์มิคูไลต์คือ
ลักษณะเช่นนี้ทำให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้คล้ายกับเพอร์ไลต์ คือใช้ประโยชน์จากการที่มีน้ำหนักเบา หรือเบากว่าเพอร์ไลต์เล็กน้อย
ประโยชน์ ทางด้านเกษตรกรรม
สามารถแลกเปลี่ยนประจุบวกสูง
สามารถดูดซับธาตุอาหารแล้วค่อยๆ ปลดปล่อยให้ในภายหลัง
มีธาตุอาหาร โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียมที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
การใช้เวอร์มิคูไลท์เป็นวัสดุปลูกจึงช่วยลดความเข้มข้นของธาตุในสารละลายลง
ไม่ละลายน้ำ
ดูดซับน้ำ
มีความพรุน ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเวอร์มิคูไลท์จะค่อยๆ ยุบตัวลงเมื่อใช้ปลูกพืชไปนาน ๆ ภายใน 1 ปี ปริมาตรจะลดลงเหลือประมาณ 20% ของปริมาตรเดิม
เมื่อผ่านไปประมาณ 2 ปี คุณสมบัติในการอุ้มน้ำและถ่ายเทอากาศจะสูญเสียไปจนไม่สามารถใช้เป็นวัสดุปลูกได้อีก